Apple กลับมาอีกครั้งกับการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นพื้นฐานที่หลายคนรอคอยกับ iPad Gen 11 (2025) ซึ่งยังคงรักษาจุดเด่นเรื่องความคุ้มค่า ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปไปจนถึงนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานที่ต้องการแท็บเล็ตไว้เรียน จดงาน ประชุมออนไลน์ และดูคอนเทนต์แบบจัดเต็ม

ดีไซน์และหน้าจอที่คุ้นเคยแต่ใหญ่ขึ้น
iPad Gen 11 มาพร้อมหน้าจอ Liquid Retina ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล ให้ความคมชัดระดับสูง เหมาะทั้งสำหรับการอ่านเอกสาร ทำงานกราฟิกเบื้องต้น และดูวิดีโอ ด้วยความสว่างสูงสุด 500 nits และการแสดงผลแบบ True Tone ช่วยให้ใช้งานได้นานโดยไม่ล้าสายตา
ตัวเครื่องยังคงดีไซน์ขอบแบน ใช้งานง่าย พกพาสะดวก พร้อมสีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสีเงิน ชมพู น้ำเงิน และเหลือง ตามสไตล์ iPad รุ่นใหม่
ขุมพลัง A16 Bionic แรงขึ้นในระดับที่รู้สึกได้
จุดเปลี่ยนสำคัญของ iPad รุ่นนี้คือการเปลี่ยนมาใช้ ชิป A16 Bionic แบบเดียวกับ iPhone 14 Pro ซึ่งให้ประสิทธิภาพแรงกว่าชิป A14 ใน iPad รุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน ทั้งในงานทั่วไปและงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลอย่างการตัดต่อวิดีโอระดับ 4K หรือเล่นเกมกราฟิกสูง
นอกจากนี้ RAM ยังเพิ่มเป็น 6GB รองรับการใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล และให้ความจุเริ่มต้นที่ 128GB เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมที่ให้มาเพียง 64GB
กล้องและการเชื่อมต่อ
iPad Gen 11 มาพร้อมกล้องหลัง 12MP และกล้องหน้าแบบ Ultra-wide 12MP รองรับฟีเจอร์ Center Stage ซึ่งจะติดตามใบหน้าผู้ใช้งานให้อยู่กลางเฟรมตลอดเวลา เหมาะสำหรับประชุม Zoom, FaceTime หรือ Live สด
การเชื่อมต่อเป็นพอร์ต USB-C ทำให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์เสริมทั่วไปได้ง่ายขึ้น เช่น External SSD, เมาส์, คีย์บอร์ด และกล้องถ่ายภาพ
รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.3 ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายเสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรุ่น Cellular ที่รองรับ 5G สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานนอกสถานที่อย่างคล่องตัว

รองรับ Apple Pencil และอุปกรณ์เสริม
แม้ iPad Gen 11 จะยังไม่รองรับ Apple Pencil Pro แต่ก็ยังใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 แบบหัว USB-C ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับการจดโน้ต วาดภาพ หรือเซ็นเอกสาร
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับ Magic Keyboard Folio ได้ ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่มาพร้อมแทร็กแพด ทำให้ iPad กลายเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานแทนแล็ปท็อปได้เบื้องต้น
จุดเด่นที่น่าสนใจ
- ใช้ชิป A16 ที่ประสิทธิภาพแรงกว่า A14 ประมาณ 50%
- หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 11 นิ้ว แต่ยังคงน้ำหนักเบา พกพาง่าย
- ความจุเริ่มต้น 128GB ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่
- กล้องหน้า Ultra-wide พร้อม Center Stage
- รองรับ Apple Pencil และ Magic Keyboard Folio
ข้อควรรู้และข้อสังเกต
- ไม่รองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence หรือ AI ใหม่ ๆ บางอย่าง
- ไม่สามารถใช้กับ Apple Pencil Pro และ Stage Manager ได้
- ยังไม่มีฟีเจอร์จอ 120Hz (ProMotion)

เหมาะกับใคร?
- ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการแท็บเล็ตใช้งานในชีวิตประจำวัน
- นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการจดโน้ต ดูคลิป และอ่านหนังสือ
- คนทำงานที่ประชุมออนไลน์บ่อยและต้องการความสะดวก
- ผู้ที่มองหา iPad ที่คุ้มค่า ไม่ต้องลงทุนแพงเกินความจำเป็น
ราคาในประเทศไทย (โดยประมาณ)
- iPad Gen 11 Wi-Fi 128GB: ประมาณ 11,400 บาท
- iPad Gen 11 Wi-Fi 256GB: ประมาณ 16,900 บาท
ราคานี้อาจแตกต่างตามร้านค้าและโปรโมชั่นประจำช่วงเวลา เช่น Prime Day หรือแคมเปญ Back to School

สรุป
iPad Gen 11 (2025) เป็น iPad รุ่นพื้นฐานที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นด้านประสิทธิภาพ ความจุ ฟีเจอร์ใช้งาน และราคาที่เข้าถึงได้ หากคุณไม่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ระดับโปรหรือการประมวลผลระดับ AI ขั้นสูง นี่คือ iPad ที่ “คุ้มที่สุดในตอนนี้”
